Yan Architech

เฮือนใหม่ ยะ ไทย ให้ MODERN

โครงการบ้านพักอาศัย เฮือนใหม่
บ้านพักอาศัย 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 490 ตร..
ที่ตั้งโครงการอําาเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

โดยปกติล้ การเริ่มออกแบบสถาปัตยกรรม เรามักจะเริ่มจากการหาแรงบันดาลใจเจ๋งๆ เพิ่ม เข้ามา แต่ โคงกา
นี้เราทําในทิศทางที่ต่างออกไ คือ ตัด เราเริ่จากกาตัดวิธีเดิมๆ ที่เราเคยเห็งาออกแบบบ้าน ไทยร่วม
สมัย ซึ่งเป็นวิธีการ Copy & Paste องค์ประกอบที่เห็ชัดที่สุดมาใส่ในผลงานไทยร่วมสมัย อาทิ ลาย ผนังฝา
กนหลังคาทรงจั่ว มาแปะบน Modern Architecture ซึ่งอาจจะดูฉาบฉวยไปหน่อยสําหรับกาประกาศว่านี่
คือบ้านไทยสมัยใหม่

เราไม่ได้มองว่าวิธีข้างต้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกไปเสียทีเดียว ทุกมุมมองและทุกวิธีคิดล้วนให้คุณค่าใรูปแบบของมั ต่เรา
กําลังตั้งคําาถาที่จะต่อยอดงาออกแบบองเาเองว่าจดีกว่ามั้ยถ้าเาหาอัตลักษณ์ของ บ้าน/เรือน/ เฮือน ได้
Deep กว่าวิธี Copy & Paste นี้ และอาจแปลงสิ่งที่หาด้นั้นให้เข้ากับงาน Modern ด้อย่างแยบยลยิ่งขึ้น
 
ทําไมต้อง Deep ล่ะ !?

สถาปัตยกรรมทุกยุคสมัยล้วนสัพัธ์กับวิถีชีวิตของคนอยู่ หากคนมีวิถีการอยู่ที่เปลี่ยนไป รูปแบบของ
สถาปัตยกรมก็ควรได้รับกาพัฒนาเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นกานําอัตลักษณ์จากอดีตมาใช้จึงควรเข้าใจวิถี
ของคนแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกันไปด้วย


หากจะอ้างอิงให้ทุกท่านให้เห็นภาพร่วมกันก็จะขอยกตัวอย่าง ลวดลายฝาปะกน ของเรือนไทยภาคกลาง แสดงถึง
ภูมิปัญญาช่างไทยที่คิดค้วิธีกานําม้ชิ้นเล็กๆ มาประกอบกัขึ้นเป็นผนังบ้านด้วยวิธีการ่องและ สอดยึดกั
ย่างเป็นระบบ นังแต่ละด้านนําาประกอบเข้ากับโครงสร้างตัวเรือน ยึดติดด้วยเดือยไม้และถอด ประกอบได้เป็น
ชิ้นส่วน ซึ่งสดวกต่อกาปลูกสร้างแและขนย้าย หากแต่วัตกรองกาก่อสร้างของยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป
เราก็ไม่จําาเป็นต้องนําฝาปะกนมาใช้กับบ้านยุคปัจจุบันอีกแล้ว เว้นแต่จะเสพเพียงรูปแบบของลวดลาย ซึ่งเราจะม่
เลือกวิธีนี้มาเป็นแกนแนวคิดหลักใกาออกแบบเพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ เฮือนใหม่ หลังนี้
หลังจากเราสิ้นคําถาม Deep Deep ขั้ตอกาถอดหัสเรือนวิถีไทยก็เริ่มขึ้
เราเริ่มจากการแยกวิเคราห์เรือนไทยดั้งเดิมเป็ส่วนๆ เช่น Materials, Construction Details, Structure,
Proportion, Space, Function, Ventilation, Lighting ฯลฯ เหล่านี้ล้วนประกอบกันจนเกิด เป็นอัตลักษณ์ของ
เรือนไทยในแต่ละภูมิภาค
 
สําหรับ เฮือนใหม่’ เราม่ด้มีเจตาที่อยากจใช้รูปลักษณ์ของเรือนภาคเหนือเช่กาเป็นเรือนแฝดหรือกามี
หลังคาทรงจั่วเตี้ยมาใช้เป็นแก่นของงานดีไซน์ หากแต่ต้องการนําเสนอความ
เป็ Modern Design เพื่อสอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใม่ 60% ที่เหลือ
เป็นแรงบัดาลใจจากเรือนไทยดั้งเดิที่เราประยุกต์มาแล้ โดยคิดเป็
35% สําาหรับ User Experience และ 5% สําาหรับ Visual Aesthetics
หากจะแจกแจงลงไปอีก 40% ของแรงบัดาใจจากเรือนไทยดั้งเดิมที่เรา
เลือก คือ Family Space, Ventilation, Indirect Lighting, Wood
Material, Construction Detail

Family Space ถ้าบอกว่าคือ ชานบ้าน คงเป็นที่รู้จักกันดี เราชอบในส่วน
องกาใช้ประโยชน์บนพื้ที่แบบนี้ ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็จุดที่เชื่อมระหว่าง
เรือนแต่ละหลังเข้าด้วยกัน ต่เราสใจในส่วนของกาใช้ประโยชน์ในเชิง
เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจแบบ Semi Outdoor มากกว่า ซึ่งทุกคนใน
ครอบครัวสามาถใช้ Space ขนาดใหญ่นี้ร่วมกันได้ และเราปรับตําาแหน่ง
จากชากลางบ้านของเรือนไทยเดิม ให้เป็นชานที่หันไปทางวิวภูเขาแทน
ซึ่งผู้ออกแบบหวังอยากให้ผู้อยู่ได้แย่งกันมาใช้ตากลมบนเขาสบายๆ และชื่นชมความ Impact ของทิวเขาไป พร้อมๆกัน

Ventilation อัที่จริงเป็นโจทย์สุดฮิตจากเจ้าของบ้านหลายๆ หลังของ ย่านสถาปนิก ด้วยซ้ำ อาจจะเพราะว่า
บ้านเมืองเรามีอากาศบบร้อนชื้ ไม่ได้สบายตัวนัก ความโล่ง+โปร่ง+สบาย จึงเป็นอีกปัจจัยที่สําคัญ สําหรับ
เรือนไทยดั้งเดิม การแยกเรือนเป็นหลังย่อยๆ แล้วเชื่อมด้วยชานบ้าน ด้ช่วยให้ลมถ่ายเทไปสู่เรือนทุกหลังได้
ค่อนข้างดี เราจึงใช้ไอเดียนี้แบ่ง Function ของ เฮือนใหม่ ออกเป็นเรือนย่อยๆ 3 เรือน ทําให้บ้านแทบทุกส่วน
มีกาถ่ายเทอากาศด้อย่างเต็ที่สอดคล้องกับสภาวะน่าสบายตัที่เจ้าของบ้านต้องกา
Indirect Lighting อยากเปิดบ้านรับลม มีแสงบ้าง ต่ม่อยากได้แดดแรงๆ แสงสะท้อน จึงเป็นตัวเลือกที่ดี
กว่าการับแดดตรง ของเรือนไทยดั้งเดิ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่ขึ้ชื่อเรื่องแดดอยู่ล้ นอกจากความสว่าง
ายังสามารถได้ความรู้สึกของ Aesthetic Lighting ที่ซอฟท์ลมุนและสร้างบรรยากาศก่ตัวบ้านได้ สถาปนิก จึง
คิดวิธีกาออกแบบลังคาฝ้าเพดาน Modern ผืนใหญ่ ให้แยกเหลือมกันเป็นชั้นๆ เพื่อนําแสงธรรมชาติ เข้า
มาภายในอาคารช่งกลางวั และซ่อนหลืบไฟส่องสว่างเนือฝ้าเพดานยามค่ำคื เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ สุนทรีย์แก่ Interior Space

Wood Material เชื่อว่าหลายท่านทราบอยู่ล้วว่าเรือนไทยดั้งเดิมใช้ม้เป็นองค์ประกอบลักกว่า 90% เลยทีเดียว
เพราเป็วัสดุสร้างบ้านที่หาง่ายของคนยุคก่อน น่นอนว่าใปั จจุบันทรัยากรบโลกของเาเปลี่ยนไป
และเกิดวัสดุก่อสร้างทดแทนมากมาย ต่สถาปนิกเองยังคงรู้สึกถึง Warm Feeling ของไม้ เราจึงยังคงใช้ม้ มา
เป็วัสดุลักแก่พื้ผิวอาคารในหลายๆ ส่วนของ เฮือนใหม่ เพื่อให้ผู้อยู่ได้รู้สึก Retreat เมื่อได้กลับมาอยู่บ้าน
 
Construction Detail ดังที่เกริ่นไปข้างต้นว่า บางทีวิธีที่ฉาบฉวยก็ยังมีคุณค่าของมันอยู่ ในท้ายที่สุดของงาน
ออกแบบ สถาปนิกอยากสท้อนกลิ่นอายของเรือนไทยจากกานําาเอาดีเทลกาเข้าลิ้นของโครงสร้างม้ แปลง มา
เป็ดีเทลตกแต่งอาคารบางส่วนแทน ทําาให้เกิด Pattern Design ใหม่ที่ด้รับแรงบันดาลใจมาอีกสิ่งหนึ่ง
แทนที่จะเป็ ลวดลายดั ้งเดิมโดยตร
การหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ของสถาปนิก เพื่อเพิ่มคุณค่าให้แก่งานออกแบบในหลายๆ มิติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่าง
สม่ำเสมอใวงกา Architectural Design แต่สิ่งสําคัญที่สุดที่สถาปนิกไม่อาจลืมได้ในงานออกแบบบ้าน หรือ
เรือน หรือเฮือน คือ ความเข้าใจผู้อยู่
Content:
Thaweesak Watthanawareekun
(Founder of Yan Architects)